2554/04/05

เรียนนอก


หลายปีก่อนยังไม่มีมหาวิทยาลัยหรือโรงเรียนอินเตอร์เนชั่นแนลให้เกลื่อนกลาดเหมือนปัจจุบัน การได้ผ่านเมืองนอกเมืองนาและได้ภาษาต่างชาติ เพื่อนำกลับมาใช้ในการทำงาน ถือว่าเป็นอะไรที่โดดเด่นมาก และดิฉันก็เป็นหนึ่งในหลายๆ คนที่ได้รับโอกาสนั้น
คุณพ่อของดิฉันส่งดิฉันไปเรียนที่เมืองลอนดอน ประเทศอังกฤษ เพราะหวังว่าดิฉันจะได้รับโอกาสที่มากกว่าคนอื่นๆ และดิฉันก็ไม่ทำให้ทุกคนในครอบครัวผิดหวัง ดิฉันตั้งใจเรียนอย่างดี แม้ว่าจะเครียดและอาเจียนทุกครั้งที่สอบ ดิฉันก็อดทนท่องหนังสือและขยันเรียนทุกอย่าง
ดิฉันต้องรีบเรียน รีบจบ พยายามลงทุกหน่วยกิตเท่าที่จะลงได้ ตามคำบอกของคุณพ่อ เพราะที่นั้นความที่ของแพงหนักหนา น้ำแต่ละขวด ทานก๋วยเตี๋ยวบ้านเราได้เป็นชามๆ เวลาผ่านไปดิฉันก็เร่ิมเคยชินกับการใช้เงินปอนด์อังกฤษ ถึงกระนั้นก็เถอะดิฉันก็ไม่ได้ฟุ้งเฟ้อมากมาย และด้วยความที่ต้องอยู่คนเดียวทำให้ดิฉันนึกถึงเด็กสาวต่างจังหวัดในบ้านเราที่เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เพราะคิดว่าโรงเรียนหรือมหาวิทยาลัยในกรุงเทพฯ เป็นสถาบันที่ดีที่สุด ถ้าจบออกมา ก็จะได้ทำงานที่ดีๆ ซึี่งสภาพนั้นคงไม่ต่างอะไรกับดิฉันเวลานั้นเลย
บ่อยครั้งที่ดิฉันก็นั่งคิดถึงบ้านเป็นที่สุด คิดถึงอาหารไทย ถึงแม้ว่าที่นี่จะมีร้านอาหารไทย รสชาติดีอยู่หลายร้านก็เถอะ แล้วในที่สุดความภาคภูมิใจของดิฉันก็มาถึง เมื่อดิฉันไขว่คว้าปริญญาโทมา 2 ใบ ให้คุณพ่อ 1 ใบ ให้คุณแม่ 1 ใบ ตามที่คนไทยเข้าต้องการ คือใบปริญญา ณ วันนี้ถ้าบ้านเราไม่ถือเอาใบประกาศนียบัตรเป็นเกณฑ์ตัดสินคนเข้าทำงาน ดิฉันคงไม่มีวันนี้หรอกค่ะ
นอกเหนือจากปริญญาบัตรหรือใบประกาศนียบัตร ดิฉันได้รับประสบการณ์ต่างๆ มากมาย ซึ่งสามารถเปลี่ยนแปลงชีวิตดิฉันให้กล้าคิด กล้าแสดงออก และมีการปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมมากขึ้น
ถึงกระนั้นทุกวันนี้ดิฉันก็ได้แต่ฝันว่า เด็กไทยน่าจะได้ทำอะไรที่เขาอยากทำ และเป็นอย่างที่เขาอยากเป็นบ้างก็เท่านั้นเองค่ะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น